การตัดเย็บให้ร่วมสมัย

การสวมใส่ผ้าทอมือ กลายเป็นเรื่องที่หลายคนมองว่าล้าสมัย เป็นเรื่องของคนแก่ คนวัยหนุ่มสาวไม่ควรใส่ แนวคิดนี้แม้จะไม่ผิด แต่เราควรส่งเสริมใหม่ให้ถูกต้อง วิธีการหนึ่งที่ควรส่งเสริมกันก็คือการนำผ้าทอมือเหล่านี้มาตัดเย็บให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น ทำยังไงผ้าฝ้ายที่เกิดจากการทอมือจะสร้างตัดเย็บเป็นชุดทำงาน เป็นเสื้อเชิ้ตที่สามารถใส่ออกงาน ใส่ไปทำงาน ใส่ไปพบลูกค้าได้แบบน่าสนใจ หากทำได้เชื่อว่าหลายคนก็พร้อมจะหันมาสนับสนุน

การสร้างแบรนด์ของชุมชน

ผ้าทอมือ ปัจจุบันนี้เริ่มมีการรวมตัวกันของรูปแบบสหกรณ์กันมากขึ้นที่ทำแบบนี้จะทำให้การทอมือเป็นอุตสาหกรรมที่เข้มแข็งมากขึ้น แต่แบรนด์ที่เกิดขึ้นนั้น จะต้องมีการสร้างพลังบางอย่างให้แบรนด์นั้นเข้มแข็งมากขึ้นไปอีก ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณาผ่านสื่อช่องทางต่างๆ การหาพรีเซนเตอร์ทั้งคนในชุมชนและคนที่มีชื่อเสียงระดับชุมน ของเหล่านี้หากมีการสร้างอย่างต่อเนื่อง มีการวางแผนการตลาดให้แบรนด์เข้มแข็ง ทอผ้าไทยก็ไปได้

ความร่วมมือจากเอกชน

ภาคเอกชนเกี่ยวกับเสื้อผ้าบ้านเรานั้นต้องบอกว่า มีหลายแบรนด์มากที่สามารถพัฒนาตัวเองไปได้ไกลจนถึงระดับโลก จะดีมากหากภาครัฐเข้าไปขอความร่วมมือ ให้ห้องเสื้อ แบรนด์เสื้อผ้า เหล่านี้ออกคอลเลกชั่นเกี่ยวกับผ้าไทยมาอย่างน้อยห้องเสื้อละ 1 คอลเลกชั่น ต่อ 1 ปี เพียงเท่านั้นผ้าไทยก็จะได้มีคอลเลกชั่นไหมออกมาอยู่ตลอด ลองนึกภาพห้องเสื้อแบรนด์ชั้นนำของไทยทำคอลเลกชั่นผ้าทอมือออกมาสิ เป็นใครก็ซื้อนะ

แรงสนับสนุนจากภาครัฐ

อีกหนึ่งเรื่องที่ตอนนี้ภาครัฐสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่อง นั่นก็คือ การร่วมรณรงค์ใส่ผ้าไทยในการออกงานต่างๆ รวมถึงการขอความร่วมมือให้ใส่ผ้าไทยไปทำงานอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 วัน อันนี้ดีมากเพราะเป็นการกระตุ้นยอดขายผ้าไทยโดยตรง ก็ต้องบอกว่าขอให้ทางรัฐกระตุ้นเรื่องนี้ต่อไป อาจจะขยายไปถึงหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ หรือ หน่วยงานเอกชน เพื่อจูงใจหันมาซื้อผลิตภัณฑ์ผ้าไทยในพื้นที่ จะช่วยให้ กลุ่มผ้าทอมือมีรายได้มากขึ้น ก็จะทำให้ชุมชนเข้มแข็งสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง